*นายประทีป ช่วยเกิด นักวิจัย สถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่และผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (Electric vehicle, EV) มากที่สุดในโลก ขณะที่ประเทศในยุโรป ตัวอย่างเช่น ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของรถยนต์ยุคใหม่ ส่วนใหญ่ไม่รู้จักแบรนด์รถยนต์จีนอย่าง BYD, SAIC, MG, Great Wall Motor, NIO, Geely, Chery และ DFSK ยกเว้นผู้ที่อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ในยุโรปเท่านั้น
สาเหตุที่รถยนต์ไฟฟ้าจีนได้รับความนิยมเป็นที่แพร่หลายในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก สืบเนื่องจากการที่ประเทศจีนใช้การพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญเพื่อให้เป็นไปตามคำมั่นสัญญาเกี่ยวกับแผนการปล่อยคาร์บอนถึงเพดานสูงสุดและบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน คู่แข่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าประเภทนี้ยังมีน้อย ราคาจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ในราคาที่มีความเหมาะสมไม่แพงจนเกินไป รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าจีนมีรูปลักษณ์ที่สวยงามและทันสมัยถูกใจผู้บริโภค ประเทศจีนจึงกลายเป็นประเทศผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และเป็นประเทศผู้ส่งออกรถยนต์ไฟฟ้ามากสุดในโลก
อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าจีนในแง่ประโยชน์ต่อไทย พบว่าในช่วงที่ผ่านมา บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้จากจีนไม่ว่าจะเป็น Great Wall Motor (GWM), BYD, SAIC Motor บริษัทแม่ของ MG ได้เข้ามาลงทุนสร้างฐานการผลิตในประเทศไทย โดยมีการคาดการณ์ว่ามีมูลค่ามากถึง 50,000 ล้านบาท สาเหตุที่ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนเลือกประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าส่งขายไปทั่วโลกมาจากปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่ ประเทศไทยมีความพร้อมในห่วงโซ่อุปทานการผลิตถยนต์ให้กับแบรนด์ระดับโลกมาอย่างยาวนาน ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมีขนาดใหญ่ และเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้ามากสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีนได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐของไทยในประเด็นผลประโยชน์ทางภาษี อาทิเช่น การลดภาษีนำเข้ารถทั้งคัน การยกเว้นภาษีสำหรับชิ้นส่วนที่นำมาประกอบรถไฟฟ้าในประเทศไทย โดยผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่จะเลือกตั้งฐานการผลิตในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor, EEC) ที่รัฐบาลไทยได้เตรียมความพร้อมในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคไว้อย่างครบครัน รวมถึงมีท่าเรือแหลมฉบังที่สามารถส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าโดยทางเรือสินค้าไปได้ทั่วโลก
การลงทุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าจีนในประเทศไทยช่วยส่งเสริมเรื่องการลงทุนจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment: FDI) ให้กับไทยแล้ว ยังก่อให้เกิดการกระจายรายได้ในภูมิภาคต่าง ๆ ของไทย เป็นการช่วยบรรเทาความยากจนในภาพรวมของไทยอีกทางหนึ่งด้วย